สวนสัตว์เชียงใหม่ Chiangmai Zoo

อ่านแล้ว 9,596 ครั้ง

อาศัยว่าถิ่นพำนักอยู่ใกล้...สวนสัตว์เชียงใหม่ เลยไปเที่ยวได้บ่อย เมื่อไหร่ก็ได้ตามต้องการ

๐๙.๔๕ น. ถึงสวนสัตว์เชียงใหม่ เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาเลี้ยวซ้ายขึ้นลานจอดรถ ๑๐ ชั้น ที่จอดรถสะดวกสบายกว้างขวางสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการขับรถเอง แต่ส่วนใหญ่แล้วพนักงานจะแนะนำให้จอดรถ ไว้ที่ลานจอดรถ รถโหลดเตี้ย รถยกสูงจอดชั้น G ผมขับวนไปจอดชั้นสี่ มีลิฟท์ขึ้น-ลงตลอด

สิบโมงกว่า!
ซื้อบัตรที่ชั้น G ค่าบริการ เด็ก ๑๐ บาท ผู้ใหญ่ ๕๐ บาท

เดินเข้าไปขึ้นรถที่จุดจอดรถรางที่เป็นรถบริการนำเที่ยว ออกทุกคันทุกเวลา เมื่อมีผู้โดยสารเต็มคัน ไม่แพงนั่งได้ตลอดสาย จุดแรกที่จอดคือ จุดจอดหมีแพนด้า ในเส้นทางก่อนถึงจุดจอด ทางขวามือจะมียีราฟ ม้าลาย นกกระจอกเทศ อูฐ ให้ชม ทางซ้ายมือจะเป็นสถานีรถไฟฟ้า

จุดจอดหมีแพนด้า ซื้อน้ำซื้อของทานเล่นเติมพลังก่อนได้นะครับ ที่ 7-11 สาขานี้ไม่ได้เปิด ๒๔ ชั่วโมงนะครับมาชมได้..แล้วเดินข้ามฝั่งไปชมหมีแพนด้า..ที่ชมหมีก่อนเพราะว่าไม่ต้องรอรอบ ชมได้เลยและเป็นการปรับอุณหภูมิกายก่อนเข้าสโนว์โดม

เข้าไปต้องทำใจหน่อยนะครับเพราะว่าหมีแพนด้าชอบนอนกลางวัน ตัวช่วงช่วง-หลินฮุ่ย ยังออกมาให้เห็นบ้าง แต่ตัวน้อยหลินปิงแอบอย่ในซอกหินให้มองเห็นแค่ขนขาวๆ เท่านั้น ช่วงที่อยู่ในห้องต้องไม่ใช้แฟลตและไม่ส่งเสียงดังเพราะจะทำให้หมีตกใจ!!

เสร็จจากชมหมีแพนด้าแล้ว มาซื้อตั๋วรอเข้าชมสโนว์โดมให้ชมรอบละ ๓๐ นาที รวมเวลาแต่งตัว ต้องรออีกประมาณ ๒๐ นาที ช่วงที่รอ..เพื่อไม่ให้เสียเวลา ลองเดินข้ามไปชมสวนนกนครพิงค์ ที่รวมบรรดาสัตว์ปีกที่บินได้ไว้ในกรงขนาดยักษ์ในพื้นที่หลายไร่ แต่คงเดินได้แค่รอบๆ เพราะเกรงว่าถ้าจะเดินให้ทั่วคงออกมาไม่ทันเข้าชมสโนว์โดม

๑๑.๐๕ น. เข้ามาต่อแถวด้วยชุดเดินเที่ยว เสื้อยืด-เกงขาสามส่วน ที่ไม่เหมาะสมสำหรับที่จะเข้าห้องเย็น ขำตัวเองเหมือนกัน พนักงานเก็บตั๋วไว้หนึ่งส่วนสาม แต่เราก็ยังได้ชมเต็มเวลานะ ต้องเก็บอุปกรณ์สื่อสาร กล้อง และอุปกรณ์พ่วงอื่นๆ ที่ไม่สะดวกต่อการเดินในโดม เสร็จแล้ว..ไปรับชุดและรองเท้าเสื้อกันหนาวคล้ายๆ กับชุดดับเพลิงมีสองขนาด เด็กกับผู้ใหญ่ ชุดเด็กไม่ค่อยพอดี ต้องใช้ห่อเอา แล้วพับแขน ส่วนถุงมือถ้าอยากใช้ต้องซื้อเพิ่มเติมครับ ส่วนชุดของเราไม่มีปัญหาแต่พอใส่ครบชุดคือใส่เสื้อกันหนาวและรองเท้าบู๊ต แล้วโครตตตรขำกว่าเดิม เสื้อสีแดงมีฮู๊ด ท่อนล่างมีขาที่ไม่มีสิ่งปกปิดสวมรองเท้าบู๊ตสีน้ำเงินเหมือนจะไปส่องกบอย่างงัยอย่างนั้น...คนข้างๆ เขาคงขำเหมือนกันแหละแต่ไม่กล้าขำ แค่ทักว่า “ใส่ขาสั้นคงจะหนาวนะครับ...” ขำขำ

ชุดลุยพร้อมแล้ว เดินเข้าไปในห้องปรับความดันและอุณหภูมิ..แล้วเดินเข้าสู่ห้องเย็น -๗ องศา ที่เต็มไปด้วยเกร็ดน้ำแข็งขาวโพลน ไม่หนาวแต่เย็นแบบเย็นจัด หนาวมาก ...ทำให้นึกถึงเรื่องบาปบุญคุณโทษ ว่าเราเคยแช่ปลาเป็นๆ ในตู้เย็นมั้ยเพราะว่าวันนี้กรรมตามทันแล้ว ฮะฮ่า... หิมะหรือเกร็ดน้ำ แข็งจนลื่นต้องระวัง แต่ของเล่นที่มีให้เล่นก็อาศัยความลื่นของหิมะนี่แหละเป็นจุดขาย
มีสไลเดอร์แบบสั้นๆ ขึ้นไปเองไหลมาเองแบบว่าลื่นมากจนไม่กล้าเล่น อิอิเล่นรอบเดียวจอดเพราะว่าควบคุมความเร็วไม่ได้ขาไปกระแทกกับขอบไม้เลยไม่เล่นต่อ เด็กๆ ได้ที่นั่งสไลเดอร์ก็นั่งแล้วลากไปลากมา
และจุดสำคัญที่มาแล้วต้องเล่นเพราะว่ามันส์และเสียวเข้าไปในใจ คือนั่งบนที่นั่งสไลเดอร์แล้วไถลมาตามทางลาดหิมะคล้ายสไลเดอร์ธรรมดา ยาวกว่า ๒๐ เมตรวิ่งเป็นทางซิกแซก ชนกับขอบสองข้างแทบหงายหลัง ยังไม่พอยังหมุนๆ จนเวียนหัวไปหมด เล่นได้แค่สองรอบ...หมดเวลา เสียดายที่ไม่ได้เอากล้องไปด้วยแต่เขามีบริการถ่ายรูปให้นะครับ เลยมีรูปมาให้ชมท่าเดียวเอง เอาเป็นว่าอยากเห็นมากว่านี้ต้องมาชมเองครับ

ออกมาแบบร้อนๆ หนาวๆ เด็กเริ่มหิวข้าวพอดี แต่ก่อนไปไรทานให้เลือกรูปและอัดไว้ก่อนนะครับ ขนาดประมาณ ๗x๘ นิ้ว ร้อยบาท ขนาด A๔ สองร้อยบาท

แล้วไปหาอะไรทานแถวนั้นครับ มีทั้งอาหารว่าง หรือเดินไปทานร้านอาหารริมน้ำก่อนถึง อุโมงค์ปลา ก่อนก็ได้ครับ และค่อยมารับรูป

เที่ยงกว่าแล้วได้เวลาเดินทางอีกครั้งกลับรถรางเที่ยวเดิมแต่คันใหม่แวะชมมีโคอาล่า และสัตว์กลุ่มกวางชนิดต่างๆ จุดนี้มีบริการนั่งรถไฟชมด้วยนะครับ

จุดจอดต่อไปเป็นจุดชมสัตว์เลื้อยคลาน ด้านขวามือประเภทงู และจระเข้ เต่า เดินวนได้รอบๆ ครับ ออกมาชมชะนี แล้วข้ามฝั่งมาชม แรดครับ แรดดด เหนื่อยแล้วเด็กๆ เริ่มง่วงนอนพอขึ้นรถอีกครั้งเราจึงไม่ได้ลงชมสัตว์อื่นๆ แต่เราสามารถชมได้ตลอดทางเลยนะครับ ที่เล่ามา ยังไม่ครึ่งทางเลยนะครับ แล้วผมจะมาต่อในส่วนที่เหลือนะครับ...ครั้งนี้ต้องกลับก่อนครับ

Writer : BoSs Pp Update : 18 ต.ค. 2561 11:02:21

เรื่องเล่าคนเดินทาง > ท่องเที่ยวทั่วไทย